ประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ รู้ไว้ เลือกได้ถูกใจ

สิ่งสำคัญสำหรับผู้เอาประกันภัยรถยนต์ทั้งหลาย นั่นก็คือการได้แผนประกันภัยนรถยนต์ที่ตรงใจ ความคุ้มครองตามความต้องการ,  ตอบโจทย์การใช้รถยนต์ของคุณ รวมไปถึงสมดุลกับเงินในกระเป๋าที่จะต้องจ่ายออกไปด้วยค่ะ นั่นเท่ากับว่าบางครั้งคุณอาจไม่ต้องทำประกันที่แพงที่สุดก็ได้ เพราะการใช้รถยนต์ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไปค่ะ แล้วเราจะเลือกอย่างไรถึงจะเหมาะ รวมไปถึง ประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ จะได้เลือกได้ตรงใจที่สุด บทความนี้มีคำตอบมาให้ค่ะ

ประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ

ประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

  1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นแผนประกันภัยที่คุ้มครองเกือบจะทุกอย่าง แต่เพราะคุ้มครองมากจึงมีค่าเบี้ยประกันภัยที่สูงกว่าแผนอื่น ๆ ทั้งหมด เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือมีรถใหม่ที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ หรือต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุม
  2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 เป็นแผนประกันภัยที่ลดหลั่นความคุ้มครองลงมา คือความคุ้มครองครอบคลุมคล้ายประกันชั้น 1 แต่ไม่ซ่อมรถให้คุณ เหมาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์การขับขี่ดี รถกลางเก่ากลางใหม่ไปจนถึงรถอายุมาก
  3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ เป็นแผนประกันภัยที่ตอบโจทย์ชีวิตมากขึ้น เพราะความคุ้มครองคล้ายประกันภัยชั้น 2 แต่เพิ่มการซ่อมรถให้คุณในกรณีที่คุณไปชนกับยานพาหนะทางบก (รถชนรถ) ถือว่าเป็นแผนประกันสุดฮิตแผนหนึ่งเลยค่ะ เพราะมีราคาถูกกว่าประกันภัยชั้น 1 กว่าครึ่ง เหมาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์การขับขี่ดี รถกลางเก่ากลางใหม่ไปจนถึงรถอายุมาก
  4. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ความคุ้มครองคล้ายประกันภัยชั้น 2 แต่เพิ่มการไม่คุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ ซึ่งทำให้ราคาถูกสุด ๆ เหมาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์การขับขี่ดี รถกลางเก่ากลางใหม่ไปจนถึงรถอายุมาก ๆ จนถึง 20 ปีเลยทีเดียว มีที่จอดรถที่ปลอดภัย
  5. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ความคุ้มครองคล้ายประกันภัยชั้น 2+ แต่เพิ่มการไม่คุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ ซึ่งทำให้ราคาถูกลงมาอีกมาก เหมาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์การขับขี่ดี รถกลางเก่ากลางใหม่ไปจนถึงรถอายุมาก ๆ จนถึง 20 ปี
  6. ประกันภัยชั้น 4 เรียกได้ว่าเป็นแผนที่ถูกที่สุด เพราะมีแค่การซ่อมรถให้คู่กรณีอย่างเดียว จึงเป็นแผนประกันที่ไม่ได้รับความนิยมเลย ดังนั้นการจะหาบริษัทที่จำหน่ายประกันประเภทนี้จึงค่อนข้างยากมาก

จากรายละเอียดข้างต้นคงทราบไปแล้วว่า ประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ ซึ่งเมื่อเลือกแผนประกันภัยที่ถูกใจได้แล้ว ก็สามารถปรับลดความคุ้มครอง, ทุนประกัน, การมีค่าเสียหายส่วนแรก, การระบุผู้ขับขี่ และอื่น ๆ เพื่อให้ได้แผนประกันภัยที่คุณพอใจที่สุด รวมไปถึงมีค่าเบี้ยประกันภัยที่คุณรับได้และพึงใจที่จะจ่ายออกไปนั่นเอง