ประกันรถยนต์ คุ้มครองน้ำท่วมด้วยหรือเปล่า?

เข้าฤดูฝนแบบนี้ แถมยังมีข่าวหลายจังหวัดบ้านเรากำลังประสบกับอุทกภัย หลาย ๆ ท่านก็อาจนึกหวั่นใจว่าแล้วหากเกิดน้ำท่วมกับรถคันโปรดของคุณ แล้วทำให้มีความเสียหายกับตัวรถ ประกันรถยนต์ คุ้มครองน้ำท่วมด้วยหรือเปล่า

ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า ประกันรถยนต์ คุ้มครองน้ำท่วม มีแบบประกันไหนบ้างค่ะ

1. ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองในทุกกรณีอยู่แล้วนะคะ รวมไปถึงไฟไหม้ รถสูญหาย
2. ประกันรถยนต์ชั้น 2+ โดยปกติจะให้ความคุ้มครองรถไฟไหม้, สูญหาย แต่สำหรับการคุ้มครองน้ำท่วมนั้น เป็นแพ็คเกจของบางบริษัทเท่านั้น
3. ประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะไม่มีความคุ้มครองรถไฟไหม้, สูญหายอยู่แล้ว แต่สำหรับการคุ้มครองน้ำท่วมนั้นเป็นแพ็คเกจของบางบริษัทเช่นกัน
4. ประกันรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 3 ไม่มีการคุ้มครองน้ำท่วมอยู่แล้วค่ะ

ดังนั้นเมื่อรถคุณถูกน้ำท่วม ก็ต้องหยิบกรมธรรม์ขึ้นมาดูเลยค่ะ ว่าคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติหรือไม่ แต่หากเป็นเหตุความเสียหายจากน้ำท่วมที่น่าสงสัย บริษัทประกันก็จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไปนะคะ และเมื่อพบว่าคุณจงใจที่ขับไปในพื้นที่ที่น้ำท่วมทั้งที่ทราบก่อนหน้าแล้ว บริษัทฯ ก็มีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบได้เหมือนกันค่ะ

นอกจากนี้หากประเภทประกันรถยนต์ที่คุณซื้อ ไม่ได้คุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วม แต่คุณต้องการการคุ้มครอง ก็จะมีบางบริษัทเช่นกันที่มีแพ็คเกจเฉพาะคุ้มครองน้ำท่วมให้บริการต่างหากออกมา โดยจ่ายเงินเพิ่มอีกไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น

หากรถคุณเกิดความเสียหายจากภัยน้ำท่วม บริษัทประกันรถยนต์ ก็ยังต้องมาพิจารณาถึงความเสียหายที่บริษัทประกันจะชดเชยให้กับผู้เอาประกันดังนี้ค่ะ

1. รถเสียหายหนักหรือเสียหายสิ้นเชิง บริษัท ประกันรถยนต์ คุ้มครองน้ำท่วม แบบเสียหายสิ้นเชิง คือกรณีที่น้ำท่วมมิดคัน หรือ ท่วมเกินช่วงคอนโซลหน้า ซึ่งหากบริษัทประกันพิจารณาแล้วว่า ไม่คุ้มกับการที่จะซ่อมให้กลับมาในสภาพใช้ได้ดังเดิม โดยค่าความเสียหายต้องมากกว่า 70% ขึ้นไป ก็จะจ่ายค่าชดเชยตามทุนประกันที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์นั้น ๆ
2. รถเสียหายเพียงบางส่วน สามารถซ่อมกลับมาใช้ได้ บริษัทประกันจะรับผิดชอบซ่อมแซมรถให้กลับมาใช้งานได้ปกติ โดยที่บริษัทประกันรถยนต์นั้นจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมเครื่องยนต์ การซักเบาะ-พรม เป็นต้น

ดังนั้นแล้ว หากไม่หนักหนาสาหัสต่อเงินในกระเป๋าของคุณนัก การทำประกันรถยนต์ในแต่ละครั้งก็ควรจะให้ครอบคลุม โดยทำประกันรถยนต์ คุ้มครองน้ำท่วม ไปด้วยเสียเลยค่ะ เพราะหากปีนั้นเกิดอุทกภัยใหญ่เหมือนปี 2554 ล่ะก็ ไม่อยากคิดเลยทีเดียวค่ะให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น