ประกันรถยนต์อันไหนดี ที่นี่มีคำตอบ! – ภาค 2
จากบทความก่อนที่เราได้บอกเล่าถึงประเภทของประกันรถยนต์ว่ามี 2 ประเภทคือ ประกันภาคบังคับ หรือที่เรียกติดปากว่า พรบ. และประกันภาคสมัครใจ ที่มีมากมายหลายแบบมาก และในบทความนี้เราจะลงบอกถึงรายละเอียดไหนแต่ละประเภท เพื่อให้คุณสามารถชั่งใจได้ว่า ประกันรถยนต์อันไหนดี
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ถ้าแบ่งตามประเภทของทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) นั้นมีอยู่ด้วยกันถึง 5 แบบมาลองดูกันนะคะว่าคุณจะเลือกประกันรถยนต์อันไหนดี ได้แก่
1. ประกันรถยนต์ชั้น 1 เรียกว่าเป็นประกันภัยในดวงใจ เพราะคุ้มครองทุกอย่างเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยประกันจะรับผิดชอบทั้งฝ่ายผู้ทำประกันและคู่กรณีไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือทรัพย์สินในวงเงินที่ได้ตกลงกันไว้ในกรมธรรม์ และยังรวมไปถึงกรณีรถหายหรือถูกไฟไหม้อีกด้วย
ประกันประเภทนี้เหมาะกับรถใหม่ป้ายแดงไปจนถึงรถไม่เกิน 5 ปี หรือมือใหม่ทั้งหลายที่ยังไม่มั่นใจกับการขับของตนมากนัก รวมไปถึงรถที่ต้องใช้งานทุกวัน เพราะมีอัตราในการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่า
2. ประกันรถยนต์ชั้น 2 คล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ต่างกันที่ไม่คุ้มครองความเสียหายของตัวรถผู้เอาประกัน
ประกันประเภทนี้จะมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ค่อนข้างมากทีเดียว และมักใช้กับรถกลางเก่ากลางใหม่ ที่ผู้ขับขี่มีประสบการณ์มาพอสมควร อย่างน้อยในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ ก็ยังมีประกันมารองรับในการจ่ายค่าเสียหายให้กับคู่กรณี
3. ประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็ให้ความคุ้มครองที่ลดหลั่นลงมาจากประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และ 2 โดยประเภทนี้จะไม่คุ้มครองความเสียหายของตัวรถผู้เอาประกัน รวมไปถึงไม่คุ้มครองรถในกรณีที่สูญหายหรือไฟไหม้
ประกันประเภทนี้ผู้ทำประกันมักทำกับรถที่มีอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป ที่ยังพอรับความเสี่ยงเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้อยู่บ้าง
4. ประกันรถยนต์ชั้น 4 ให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น โดยความคุ้มครองนี้จะให้ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 100,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง ซึ่งประกันประเภทนี้ไม่เป็นที่นิยม เพราะแทบจะไม่คุ้มครองอะไรเลย
5. ประกันรถยนต์ชั้น 5 อาจดูไม่คุ้นหู แต่ถ้าบอกว่ามันคือประกันรถยนต์ 2 พลัส และ 3 พลัส ก็คงร้องอ๋อกันเลยใช่ไหมคะ ประกันรถชนิดนี้เพิ่งเกิดขึ้นมาได้ไม่นาน โดยพัฒนาขึ้นมาจากความต้องการของผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ที่ต้องการความคุ้มครองในแบบที่รับได้แต่เบี้ยประกันไม่แพงนักนั่นเอง
ประกันรถยนต์ 2 พลัส ในรายละเอียดก็ให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 2 และยังรับผิดชอบต่อค่าเสียหายในทรัพย์สินของผู้เอาประกัน แต่ทว่าคู่กรณีต้องเป็นการชนกับยานพานะทางบกเท่านั้น และต้องมีคู่กรณีค่ะ
ส่วนประกันรถยนต์ 3 พลัส ก็คล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 3 และยังรับผิดชอบต่อค่าเสียหายในทรัพย์สินของผู้เอาประกัน แต่ทว่าคู่กรณีต้องเป็นการชนกับยานพานะทางบกเท่านั้น และต้องมีคู่กรณีเช่นเดียวกัน และในระยะนี้ประกันรถยนต์แบบ 2 พลัสกับ 3 พลัสกำลังมาแรงเสียด้วย ประกันรถยนต์อันไหนดีกว่าในความคิดคุณคะ
เมื่อทราบรายละเอียดกันแบบนี้แล้ว คงตัดสินใจกันได้ว่าประกันรถยนต์อันไหนดี อย่างไรเสียก็เลือกให้เหมาะกับคุณมากที่สุดก็แล้วกันค่ะ