ประกันรถยนต์อายุเกิน 15 ปี ถึงจะเก่าแต่ก็เก๋า
หลายท่านมีรถคันแรกเป็นรถใหม่ป้ายแดง แต่ก็มีหลายท่านที่มีรถคันแรกเป็นรถคันโปรดของคุณพ่อคุณแม่แล้วส่งต่อมาให้ลูก ๆ ได้ดูแลต่อ แต่ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่า สิ่งหนึ่งที่คุณควรทำเหมือนกันก็คือ การทำประกันรถยนต์ เพื่อให้เกิดความคุ้มครองร่างกายและตัวรถของคุณ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้คุณจะระมัดระวังแล้วก็ตามค่ะ หากเป็นรถใหม่ ก็คงไม่มีข้อข้องใจนัก แต่หากเป็นรถเก่า ที่มีอายุรถค่อนข้างมาก หากคุณยังลังเลที่จะทำประกันอยู่ หรือไม่แน่ใจว่าที่ไหนจะรับทำประกันรถยนต์อายุเกิน 15 ปีบ้าง ลองมาพิจารณาเหตุผลตามนี้กันดูค่ะ
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งหากคุณขับรถโดยไม่มีประกัน ถึงแม้ฝีมือขับของคุณที่คุณอาจจะคิดว่าเจ๋งพอตัวแล้วก็ตาม แต่อย่าลืมว่า บางสถานการณ์คุณก็ไม่สามารถบังคับการขับขี่ให้เป็นได้ดังใจต้องการ ดังนั้นการมีประกันรถยนต์ก็อุ่นใจมากกว่าค่ะ
ถึงแม้จะเป็นรถเก่า แต่ก็มีประกันรถยนต์มากมายหลายประเภทให้คุณได้เลือกทำ และมันก็มีแน่ ๆ ที่หลายบริษัทยังรับประกันรถยนต์อายุเกิน 15 ปีให้กับคุณได้อยู่ค่ะ ผู้เขียนเคยมีเพื่อนที่ต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิมมาตลอด มีประวัติดีเยี่ยม ไม่เคยเคลมเลย ตอนนี้รถก็อายุสิบกว่าปีแล้ว แต่บริษัทประกันก็ยังต่อประกันชั้น 1 ให้ และค่าเบี้ยก็ถูกแสนถูก เพราะได้ส่วนลดประวัติดี โดยค่าเบี้ยถูกชนิดที่ว่าทำประกันชั้น 2+ ยังแพงกว่า ซึ่งทางคุณก็สามารถมีกรณีเช่นนี้ได้ค่ะ
นอกจากนี้อายุรถ 15 ปี ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่า บริษัทประกันจะไม่รับทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ เพราะไม่มีข้อกฏหมายบังคับ หากแต่ว่าขึ้นอยู่นโยบายของบริษัทประกันเองเท่านั้น จึงมักพบว่าประกันชั้น 1 บริษัทประกันมักรับสูงสุดอยู่ที่ 15 ปี
แต่หากคุณต้องการทำประกันรถยนต์อายุเกิน 15 ปี กับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แม้ประกันชั้น 1 อาจไม่ใช่ทางเลือกแต่ก็สามารถทำประกันชั้นอื่น ๆ ที่ให้ความคุ้มครองรอง ๆ ลงมาได้ ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 2+ ที่ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 มาก ๆ แต่ค่าเบี้ยถูกกว่าครึ่งเลยทีเดียว
หรือหากคุณมั่นใจในฝีมือการขับขี่ของตนเองมาก อยากมีประกันติดรถไว้เท่านั้น ก็อาจมองแผนประกันที่ต่ำกว่าลงมา เช่น ประกันชั้น 2 หรือประกันชั้น 3 ที่คุ้มครองความเสียหายของคู่กรณีของคุณ
จะเห็นได้ว่า รถเก่าก็ยังมีทางเลือกที่สามารถทำประกันรถยนต์อายุเกิน 15 ปีได้อยู่มากมาย หลายแผนประกัน แต่ไม่ว่าจะทำประกันแบบไหน สิ่งสำคัญก็คือ ควรทำประกันรถยนต์ไว้เถิดค่ะ เพื่อแบ่งเบาภาระในสถานการณ์ที่คุณอาจไม่อยากให้เกิดนั่นเอง