ประกันรถยนต์ 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร เรามีคำตอบ

ใคร ๆ ที่รักรถยนต์ ต่างก็ต้องพยายามทำประกันภัยรถยนต์เพื่อมอบความคุ้มครองให้รถ, ตัวคุณเอง รวมไปถึงเพื่อนร่วมทางของคุณกันแน่ ๆ แม้บางครั้งการเงินเราอาจจะฝืดเคือง ก็สามารถทำประกันรถยนต์โดยการผ่อนชำระแบบ 0% หลาย ๆ เดือนก็ได้ เพราะปัจจุบันเกือบทุกแห่งจะมีบริการทั้งผ่อนผ่านบัตรเครดิต หรือผ่อนเงินสดกับบริษัท จำนวนเดือนอาจจะมากน้อยแตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณจะเลือกแบบไหน แต่เมื่อจะเลือกทำประกัน คุณ ๆ อาจจะยังสับสนอยู่ว่า ประกันรถยนต์ 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร บทความนี้เราจึงมีคำตอบมาให้กับคุณกันค่ะ

ประกันรถยนต์ 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร

ประกัน 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร Pantip – ประกันรถยนต์ 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร

ก่อนจะไปว่าเรื่องความต่างกัน เรามาดูความเหมือนกันก่อนค่ะว่าประกันรถยนต์ 2+ กับ 3+ เหมือนกันอย่างไร โดยความคุ้มครองนั้น ประกันรถยนต์ทั้ง 2+ และ 3+ ให้ความคุ้มครองกับสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน นั่นคือ

  1. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ทั้งอนามัย ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
  2. บุคคลภายในรถคันที่เอาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็น อุบัติเหตุส่วนบุคคล, ค่ารักษาพยาบาล และค่าประกันตัวผู้ขับขี่
  3. รถยนต์คันที่เอาประกัน ทางบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบกรณีที่เกิดการชน ระหว่างรถคุณและยานพาหนะทางบกเท่านั้น ไม่ครอบคลุมการชนแบบไม่มีคู่กรณี อาทิเช่น เบียดรั้ว ชนเสา ครูดกระถาง เป็นต้น

ทั้งนี้ความคุ้มครองที่เหมือนกันนั้น เมื่อลงในรายละเอียดก็จะแตกต่างกันในเรื่องของมูลค่าหรือจำนวนเงินที่จะรับผิดชอบเท่านั้น

ส่วน ประกันรถยนต์ 2+ กับ 3+ นั้นต่างกันอย่างไร ซึ่งในเรื่องของความต่างก็คือ

  1. ความคุ้มครองรถสูญหาย/ไฟไหม้ สำหรับประกันรถยนต์ 2+ ยังให้ความคุ้มครองในเรื่องรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ แต่ ประกันรถยนต์ 3+ ไม่ได้ให้ความคุ้มครอง
  2. รถเสียหายจากภัยธรรมชาติ อาทิเช่น น้ำท่วม ประกันรถยนต์ 2+ ให้ความคุ้มครองในเรื่องนี้ แต่ประกันรถยนต์ 3+ ไม่ได้ให้ความคุ้มครอง

 

การที่คุณจะเลือกทำประกันรถยนต์ 2+ หรือ 3+ นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าความเสี่ยงของการใช้งานรถเป็นแบบใด อาทิเช่น ที่จอดรถจอดไว้หน้าบ้าน ค่อนข้างปลอดสายตาผู้คน มีการใช้งานรถสูงซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้รถเกิดไฟไหม้ได้ง่าย ถ้าเป็นในลักษณะเหล่านี้ก็เหมาะกับการทำประกันรถยนต์ 2+

ส่วนในเรื่องของงบประมาณ ในเมื่อประกันรถยนต์ 2+ ให้ความคุ้มครองที่มากกว่าก็ย่อมจะมีราคาที่สูงกว่าเป็นธรรมดา แต่ราคาก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ส่วนต่างจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 พันบาท ซึ่งหากคุณพอจะมีงบประมาณ ก็ควรทำประกันรถยนต์ 2+ ไปเลยจะดีกว่า

หากหาประกันภัยรถยนต์ 2+ สามารถเลือกได้จากบริษัทหรือโบรคเกอร์เหล่านี้ คลิกเลย

แต่หากต้องการทำประกันภัยรถยนต์ 3+ ก็เลือกได้จากที่นี่ค่ะ คลิก ๆ