ผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม? คำถามที่เรามีคำตอบ
สำหรับคุณ ๆ ที่อาจจะลืมคิดเผื่อค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เวลาที่เราจะมีรถสักคัน เพราะบางทีคำนวณแต่เงินดาวน์ โดยอาจจะจ่ายมากกว่าหรือตามที่ศูนย์จำหน่ายรถกำหนดไว้ และสนใจในเรื่องค่าผ่อนรถแต่ละเดือน หรือค่าใช้จ่ายจุกจิกตอนออกรถ เช่น ค่าประกันรถยนต์, ค่ามัดจำป้ายแดง, ค่าขอป้ายทะเบียนรถ เป็นต้น ทำให้เมื่อนำรถออกมาใช้ อาจพบว่า มันมีค่าใช้จ่ายที่เราลืมนึกถึงไปหลายสิ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน, ค่าทางด่วน, ค่าประดับยนต์, ค่าบำรุงรักษาเมื่อใช้ไปตามระยะทาง และอีกหลายค่าเลยทีเดียว เมื่อผ่อน ๆ ไปสักระยะอาจทำให้เรารู้สึกอึดอัดและหงุดหงิดกับค่างวดรถยนต์ที่ทำให้เราอาจชักหน้าไม่ถึงหลัง คำถามในใจก็จะผุดขึ้นมาล่ะค่ะว่า ผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม? มาหาคำตอบกับบทความของเราเลยค่ะ
เมื่อคุณต้องการที่จะให้ยอดผ่อนชำระค่างวดรถต่อเดือนลดลง การไปขอลดดอกเบี้ยกับบริษัทไฟแนนซ์เดิมย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นทางเลือกของคุณก็คือการรีไฟแนนซ์กับบริษัทการเงินบริษัทใหม่ แต่ถ้าเพิ่งถอยรถมาใช้ได้ไม่นานอาจมีคำถามว่า ผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม? ซึ่งเราก็ขอตอบตรงนี้เลยว่า สามารถทำได้ค่ะ แต่จะคุ้มค่าหรือเปล่า อันนี้ต้องมาพิจารณากันอีกที
ผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม? ต้องพิจารณาอะไรบ้าง
การที่จะขอรีไฟแนนซ์ไปบริษัทการเงินบริษัทใหม่ มีหลักที่ต้องพิจารณาดังต่อไปนี้
- เงินดาวน์ ต้องดูว่าตอนที่ออกรถนั้นคุณมีการดาวน์รถในจำนวนที่ค่อนข้างสูงหรือไม่
- ยอดผ่อนต่อเดือน หากคุณทำเรื่องผ่อนไม่นานมาก เช่น ประมาณ 4-5 ปี ก็จะทำให้คุณมียอดผ่อนต่อเดือนสูง เงินต้นจะถูกหักออกไปค่อนข้างมากกว่าการผ่อนระยะยาว ๆ แต่ต้องทำใจไว้ระดับหนึ่งว่า การที่คุณผ่อนกับบริษัทไฟแนนซ์มาเพียงปีเดียวนั้น ในระยะแรกจะเป็นยอดดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นที่จะลดลง
- ลองคำนวณ ปัจจุบันมีเว็ปไซต์มากมายของสถาบันการเงินทั้งหลาย ที่เปิดโอกาสให้คุณลองคำนวณคร่าว ๆ ด้วยตัวเองได้ว่า หากคุณจะรีไฟแนนซ์ รถของคุณจะมีราคาประเมินอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อให้คุณลองมาคิดคร่าว ๆ ว่า เงินจากการรีไฟแนนซ์ที่ใหม่เพียงพอกับการปิดบัญชีกับบริษัทไฟแนนซ์ที่เก่าหรือไม่
โดยส่วนใหญ่แล้ว การผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม ซึ่งความเป็นจริงนั้นทำได้ แต่มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ก็เพราะการผ่อนในระยะแรก ๆ เงินทั้งหมดในแต่ละงวดจะถูกนำมาหักเงินต้นน้อยมาก ๆ แต่นำไปจ่ายเป็นดอกเบี้ยเสียส่วนใหญ่ ต่อเมื่อคุณผ่อนมาเรื่อย ๆ ประมาณ 50% แล้วนั่นล่ะ เงินต้นถึงจะถูกหักลดยอดมากกว่าดอกเบี้ย จึงทำให้เวลาคำนวณยอดการรีไฟแนนซ์ไปที่ใหม่แทบไม่ต่างกัน จึงอาจจะไม่เหมาะที่จะรีไฟแนนซ์นั่นเอง ดังนั้นก็ต้องคำนวณกันก่อนดี ๆ นะคะ และพยายามชำระให้ตรงทุกงวด เพื่อเป็นเครดิตที่ดีของตัวคุณเองในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ในวันข้างหน้าต่อไปค่ะ