รู้ไว้ได้ประโยชน์ รถเข้าซ่อมมีค่าชดเชย ประกันรถยนต์!
โดยปกติแล้วคุณ ๆ ก็จะมีรถใช้กันแค่คนละคันเท่านั้น ซึ่งเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุและต้องนำรถเข้าซ่อมก็จะทำให้คุณต้องรู้สึกลำบากในการเดินทางอย่างช่วยไม่ได้ทีเดียวค่ะ แต่คุณ ๆ ทราบหรือไม่ว่าค่าเดินทางเหล่านี้คุณสามารถเรียกค่าชดเชย ประกันรถยนต์ จากบริษัทประกันได้ เราลองมาดูเงื่อนไขต่าง ๆ กันนะคะ
ค่าชดเชย ประกันรถยนต์ หรือที่เรามักเคยได้ยินว่า ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม นั่นคือการที่คุณต้องนำรถยนต์คันโปรดของคุณเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ในเครือของบริษัทประกันรถยนต์ที่คุณได้ทำไว้ และเมื่อไม่มีรถ แต่คุณก็ยังต้องเดินทางไปทำงานอยู่ทุกวัน ค่ารถแท็กซี่หรือค่าเดินทางอื่น ๆ ก็ต้องจ่าย แถมยังต้องได้รับความไม่สะดวกในการเดินทางอีก สิ่งเหล่านี้คุณสามารถเรียกร้องค่าเสียหายคือค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมก็ได้ จากบริษัทประกันรถของคู่กรณี หรือจากคู่กรณีที่เราประสบเหตุในระหว่างที่เราต้องเอารถเข้าซ่อม ทั้งนี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นต้องเป็นการชนกับรถ และคุณเป็นฝ่ายถูกเท่านั้นนะคะ
โดยการเรียกร้องค่าชดเชย ประกันรถยนต์ นั้น บางบริษัทประกันจะใช้เป็นจุดขาย เช่น มีรถใช้ระหว่างซ่อม หรือมีค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมโดยระบุเป็นเงินจำนวนหนึ่ง และจำนวนครั้งต่อปีกรมธรรม์ ซึ่งบริษัทประกันก็จะไปไล่เบี้ยต่อเอาเองจากบริษัทประกันคู่กรณี แต่หากบริษัทประกันที่คุณทำไม่มีบริการเหล่านี้ คุณก็ต้องดำเนินการเองค่ะ
ในส่วนการดำเนินการ ก็ต้องเตรียมเอกสารที่จะขอค่าชดเชย ให้ครบถ้วนนะคะ มีดังต่อไปนี้ค่ะ
- สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ คือหน้าแรกกรมธรรม์ประกันภัย
- สำเนาทะเบียนรถยนต์ หน้าที่ระบุรายละเอียดการจดทะเบียนและกรรมสิทธิ์ ชื่อเจ้าของรถยนต์ ซึ่งควรต้องเป็นชื่อของคุณที่เป็นคนเรียกร้องค่าชดเชย ประกันรถยนต์
- ใบเสนอรายการความเสียหายของรถยนต์ ซึ่งคุณสามารถขอจากทางอู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการ
- ใบเคลม ซึ่งเป็นเอกสารที่เจ้าหน้าที่เคลมประกันออกให้ตอนที่เราเกิดอุบัติเหตุ เพราะในใบเคลมจะมีระบุไว้ว่ารถมีความเสียหายส่วนใดบ้าง และยังระบุด้วยว่าเราเป็นฝ่ายถูก
- สำเนาใบขับขี่รถยนต์ สำเนาใบขับขี่ของคุณซึ่งเป็นผู้เรียกร้องค่าเสียหาย
- ใบรับรถ ซึ่งรายละเอียดในใบรับรถต้องมีการระบุวันที่รับรถอย่างชัดเจน
- รูปถ่ายตอนซ่อมรถ สามารถขอได้จากทางอู่ รวมไปถึงรูปถ่ายของอู่หรือศูนย์นั้น ๆ
- เอกสารเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมรถ สามารถหาแบบฟอร์มได้จากอินเตอร์เน็ตหรือลองติดต่อบริษัทประกันของคุณนะคะ
- สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร ส่วนที่ระบุชื่อเจ้าของบัญชี เบอร์บัญชี และธนาคาร เพื่อให้บริษัทประกันคู่กรณีโอนเงิน
โดยทั้งหมดหากเอกสารตัวไหนเป็นการถ่ายเอกสาร อย่าลืมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องบนเอกสารให้เรียบร้อยทุกใบนะคะ นอกจากนี้เวลาไปยื่นเรื่องอย่าลืมขอชื่อและเบอร์ติดต่อของผู้ที่รับเรื่อง พร้อมสอบถามระยะเวลาดำเนินการเอาไว้ด้วย เพราะหากเกินกำหนดคุณก็จะได้ทราบว่าต้องตามเรื่องที่ใคร และติดต่อที่ไหน แม้อาจจะดูยุ่งยากวุ่นวายไปบ้าง แต่เพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเองค่ะ