ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 รถกระบะ ก่อนทำต้องรู้!
หากคุณออกรถกระบะมาสักคัน ในปีแรกคงไม่ใช่ปัญหาเพราะศูนย์บริการจำหน่ายรถย่อมจัดการแทนคุณทุกอย่าง รวมไปถึงเรื่องประกันภัยรถยนต์ด้วย แต่เมื่อถึงคราวที่ประกันภัยรถยนต์หมดอายุ หากคุณกำลังลังเลใจว่าจะต่อประกันภัยกับที่เดิมดีหรือไม่ และยังต้องการทำประกันชั้น 1 อยู่ คราวนี้ล่ะค่ะคุณอาจต้องหาแผนสำรองโดยการมองหาการเสนอราคาประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 รถกระบะ จากบริษัทประกันภัยหรือโบรคเกอร์ต่าง ๆ เพื่อมาเปรียบเทียบกัน แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่ารถกระบะของคุณถูกจดทะเบียนเป็นประเภทไหน เพราะมีผลต่อค่าเบี้ยด้วย บทความนี้จะทำให้คุณกระจ่างค่ะ
การจะทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 รถกระบะนั้น ต้องทราบก่อนว่ารถกระบะของคุณถูกจดทะเบียนแบบไหน มีรหัสรถยนต์เป็นรหัสอะไร เพื่อที่ว่าคุณจะได้ทราบข้อมูลคร่าว ๆ ในการนำไปพูดคุยกับทางบริษัทประกันเพื่อขอใบเสนอราคานั่นเอง
รหัสรถยนต์จะมีด้วยกัน 3 หลัก ซึ่งโดยปกติรถกระบะมักจะมีเลขหลักร้อย เป็นรหัสตัวหน้าอยู่ 3 ประเภทคือ
- หมายเลข 1 หมายความว่า เป็นประเภทรถยนต์นั่ง
- หมายเลข 2 หมายความว่า เป็นประเภทรถยนต์โดยสาร
- หมายเลข 3 หมายความว่า เป็นประเภทรถยนต์บรรทุก
ส่วนอีก 2 หลักด้านหลัง คือหลักสิบและหลักหน่วย จะเป็นตัวบอกว่ารถยนต์คันนี้ใช้เพื่ออะไร ได้แก่
- หมายเลข 10 หมายความว่า เป็นชนิดรถยนต์ส่วนบุคคล
- หมายเลข 20 หมายความว่า เป็นชนิดรถยนต์ใช้เพื่อการพาณิชย์
- หมายเลข 30 หมายความว่า เป็นชนิดรถยนต์ใช้รับจ้างสาธารณะ
- หมายเลข 40 หมายความว่า เป็นชนิดรถยนต์ใช้เพื่อการพาณิชย์พิเศษ
สมมติว่ารถกระบะของคุณเป็นรถกระบะ 4 ประตู ไม่ต่อสองแถว โดยมีป้ายทะเบียนสีขาวตัวอักษรสีดำ นั่นคือเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง เมื่อคุณทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 รถกระบะ คุณจะมีรหัสรถยนต์ ได้ 2 ประเภทคือ
**รหัส 110 คือ รถยนต์ใช้ส่วนบุคคุล ไม่มีการรับจ้างหรือให้เช่า
**รหัส 120 คือ รถยนต์ใช้เพื่อการพาณชิย์ หรือรถจดทะเบียนบุคคล ใช้ในงานรับจ้างแต่ไม่ประจำทาง
หรือสมมติในกรณีรถคุณเป็นกระบะติดแค็บด้านหลัง และเสริมเก้าอี้เพิ่มรวมเกิน 7 ที่นั่ง โดยมีป้ายทะเบียนสีขาวตัวอักษรสีฟ้า เมื่อคุณทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 รถกระบะ คุณจะมีรหัสรถยนต์ ได้ 2 ประเภทคือ
**รหัส 210 คือ รถยนต์ใช้ส่วนบุคคล ไม่มีการรับจ้างหรือให้เช่า
**รหัส 220 คือ รถยนต์ใช้เพื่อการพาณิชย์ ใช้เพื่อรับจ้างส่งคน อาทิ รับส่งนักเรียนหรือพนักงาน เป็นต้น
ดังนั้นแล้วรหัสที่แตกต่างกันไปนี้ย่อมมีผลต่อค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ด้วยนะคะ เพราะโดยปกติบริษัทประกันภัยมักจะรับทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 รถกระบะกรณีที่เป็นรถใช้ส่วนบุคคลเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รับทำประกันภัยหากรถของคุณเป็นรถเพื่อการพาณิชย์หรือให้เช่า ทางที่ดีคุณควรแจ้งเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยตามความเป็นจริง เพราะเจ้าหน้าที่อาจมีคำแนะนำดี ๆ ให้กับคุณ หรืออาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษอื่น ๆ ก็เป็นได้ค่ะ