ประกันรถยนต์ขาดได้กี่วัน ข้อมูลที่คุณต้องรู้!
หลาย ๆ ท่านมักมีประกันรถยนต์ติดรถ แต่ด้วยความที่งานอาจมาก จนบางทีสิ่งที่ไม่ได้ทำเป็นประจำก็จะหลงลืมไปได้ในหลาย ๆ เรื่อง นั่นรวมไปถึงเรื่องการต่ออายุประกันรถยนต์แสนรักของคุณนั่นเองค่ะ เคยสงสัยกันไหมคะว่าประกันรถยนต์ขาดได้กี่วัน บทความนี้นำความรู้ดี ๆ มาฝากเกี่ยวกับเรื่องนี้กันค่ะ
ปกติแล้วหากคุณได้รับกรมธรรม์อยู่ในมือ จะพบว่ามีข้อมูลหนึ่งที่แสดงถึงวันเริ่มให้ความคุ้มครอง และอีกข้อมูลก็คือวันสุดท้ายที่จะให้ความคุ้มครอง ซึ่งเมื่อคำนวณวันตามปีปฏิทินจากช่องแรกกับช่องสองก็คือการให้ความคุ้มครอง 1 ปี แต่ถ้าจะสังเกตดี ๆ ในข้อความที่เป็นการพิมพ์ไว้แล้วจะมีระบุกันถึงเวลาเอาไว้ด้วย นั่นย่อมเป็นการบอกว่าหากคุณเกิดอุบัติเหตุหลังจากวันและเวลาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์โดยที่คุณยังไม่มีการต่ออายุ เท่ากับว่าบริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบความเสียหายต่าง ๆ ทุกกรณี คราวนี้คงได้คำตอบแล้วนะคะว่า ประกันรถยนต์ขาดได้กี่วัน นั่นคือขาดไม่ได้เลยนั่นเอง
ดังนั้นก่อนเวลาที่กรมธรรม์เดิมจะหมดอายุ ประมาณ 1-3 เดือน บริษัทประกันภัยเดิมหรือนายหน้าประกันภัยมักมีบริการแจ้งเตือนต่อกรมธรรม์ใหม่ ซึ่งคุณก็สามารถพิจารณาบริษัทเดิมหรือจะหาบริษัทใหม่ได้ตั้งแต่ตอนนั้นเลย อย่านิ่งนอนใจจนประกันภัยเดิมหมดอายุนะคะ เพราะส่วนใหญ่เท่าที่เคยได้ยินมา เวลามีประกันภัยคุ้มครองอยู่จะไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่พอประกันภัยหมดอายุได้ไม่นานก็เจออุบัติเหตุ แถมเป็นเรื่องหนัก ๆ ทั้งนั้น ดังนั้นก็ต่ออายุประกันภัยไว้เพื่อเป็นการป้องกันภัยกันดีกว่า อย่ามัวที่จะมาตั้งคำถามกับตนเองว่า ประกันรถยนต์ขาดได้กี่วัน
แต่ทว่าหากเรื่องเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณลังเล ยังไม่กล้าต่อประกันภัยเดิมที่อาจมีราคาสูงเพราะเป็นประกันภัยชั้น 1 คุณก็อาจพิจารณาเป็นการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตหรือผ่อนชำระเงินสดกับบริษัท หรืออาจพิจารณาลดความคุ้มครองลงมาเป็นแผนประกันชั้น 2+ หรือแผนประกันชั้น 3+ ก็จะทำให้ประหยัดเงินลงมาได้มากทีเดียวค่ะ แต่ทว่าความคุ้มครองก็จะลดลงตามไปด้วยเช่นกันนะคะ
ในส่วนของกรมธรรม์ประกันภัย ที่เรามักเรียกว่า พ.ร.บ. นั้น การปล่อยให้ขาดนอกจากมีอุบัติเหตุแล้วเคลมไม่ได้แล้ว คุณยังจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายอีกด้วย เพราะนี่เป็นข้อบังคับตามกฏหมายที่รถทุกคันต้องมีประกัน พรบ. แต่ในส่วนของประกันภาคสมัครใจ หากคุณไม่ต่ออายุ แต่เกิดอุบัติเหตุหลังประกันภัยหมด ก็ไม่ได้ผิดกฏหมาย แต่ทว่าคุณก็ต้องหาเงินมาจ่ายค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดจากอุบัติเหตุด้วยตัวคุณเอง
ดังนั้นจากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นจะเห็นได้ว่า การต่ออายุประกันภัยนับว่าเป็นสิ่งที่ดี จึงไม่ควรละเลยหรือเพิกเฉยนะคะ แต่หากเงินในกระเป๋าไม่เอื้ออำนวยก็อาจลองมองหาช่องทางอื่นที่รอง ๆ ลงมาเป็นการทดแทนจะดีกว่าค่ะ
