ประกันรถยนต์ เปลี่ยนทะเบียนมา ต้องทำไงต่อ!
หากรถคันโปรดที่คุณใช้เป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 หรือ 6 ไปแล้วในชีวิตประจำวัน โดยคุณก็มอบการดูแลอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งรถทั้งภายในภายนอก รวมไปถึงการทำประกันรถยนต์แล้วนั้น เมื่อมีเหตุจำเป็นให้คุณต้องเปลี่ยนทะเบียยนรถของเดิม อาจจะเนื่องด้วยคุณไปประมูลป้ายทะเบียนรถเลขสวย ๆ มา หรือแม้แต่อาจจะไปดูหมอแล้วถูกทักเรื่องตัวเลขบนทะเบียนรถเดิม จนไม่สบายใจอยากจะเปลี่ยนใหม่ หรืออาจจะย้ายที่อยู่ข้ามจังหวัดและอยากจะใช้ทะเบียนรถในจังหวัดนั้น ๆ ซึ่งกรณีนี้ประกันรถยนต์ เปลี่ยนทะเบียนมา คุณต้องทำอย่างไรต่อไป ตามอ่านต่อได้เลยค่ะ
แน่นอนว่าเมื่อคุณได้ป้ายทะเบียนมาใหม่ ก่อนจะติดตั้งเข้าไปที่รถของคุณโดยเปลี่ยนกับทะเบียนเดิมนั้น คุณจะต้องทำการแจ้งต่อกรมการขนส่งให้เรียบร้อย หรือหากรถของคุณยังคงต้องผ่อนกับบริษัทไฟแนนซ์อยู่ก็สามารถแจ้งผ่านบริษัทให้ไปดำเนินการแทนคุณได้เลย
เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการขอเปลี่ยนป้ายยทะเบียนจากเดิมเป็นป้ายใหม่ มีดังนี้
- สำเนาทะเบียยนรถ (เล่มสีเขียว ตัวจริง)
- ทะเบียนรถเดิม
- หลักฐานการได้มาซึ่งทะเบียนใหม่
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถ พร้อมลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้องให้เรียบร้อยยย
- ใบมอบอำนาจ กรณีคุณไม่สามารถไปดำเนินการด้วยตนเอง
- สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบ กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
และยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเปลี่ยนป้ายทะเบียนไม่กี่พันบาท และคุณจะได้รับป้ายภาษี (ที่มักเรียกว่า ป้ายวงกลม) ของใหม่ที่เป็นทะเบียนใหม่มาติดที่กระจกหน้ารถได้เลยค่ะ
เมื่อคุณได้ดำเนินการต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วต่อมาก็ต้องมาถึงคิวของประกันรถยนต์ เปลี่ยนทะเบียนมาแล้วก็ต้องแจ้งบริษัทประกันด้วยนะคะ โดยนำหลักฐานที่ได้มาจากกรมการขนส่ง เพิ่มเติมกับหลักฐานของการได้มาซึ่งป้ายทะเบียนรถใหม่ ซึ่งทางประกันภัยรถยนต์จะมีการตรวจสอบกับเลขตัวถังเดิมควบคู่ไปด้วย จากนั้นจะออกใบสลักหลังกรมธรรม์เพื่อให้คุณแนบกับกรมธรรม์ของเดิม ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
แต่ทว่าระหว่างที่คุณยังไม่ได้ดำเนินการกับประกันรถยนต์ เปลี่ยนทะเบียนใหม่ให้บริษัทประกันทราบ แล้วเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นล่ะ แน่นอนว่าหลักฐานต้องไม่ตรงกัน ดังนั้นคุณอาจจะต้องยุ่งยากขึ้นนิดหน่อย เพราะการเคลมสามารถทำได้แต่ต้องเทียบเคียงจากเลขตัวถังเท่านั้น อีกทั้งเอกสารการได้มาซึ่งป้ายใหม่คุณต้องเก็บไว้แสดงควบคู่กันด้วยค่ะ
แม้อาจต้องเพิ่มหลักฐานอะไรต่าง ๆ นานาที่จะแสดงต่อเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยยบ้าง แต่ก็ไม่ยุ่งยากมากจนเกินไป อีกทั้งก็ยังสามารถเคลมได้ตามปกติอยู่นั่นเองค่ะ แต่เพื่อความสะดวกเมื่อได้หลักฐานต่าง ๆ มาแล้วก็ควรรีบดำเนินการเสียให้เรียบร้อยนะคะ เพราะเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่นั่นเอง
