เทียบราคา ประกันรถยนต์ ไม่พอ? 6 ข้อเพื่อหาประกันที่เหมาะที่สุด

ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ หรือที่เรามักเรียกกันว่าประกันรถยนต์ เฉย ๆ บ้าง หรือพูดถึงแผนประกันที่คุณทำไปเลย เช่น ชั้น 1 ชั้น 2+ บ้าง แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร หากมีการทำติดรถไว้ย่อมทำให้อุ่นใจมากขึ้นนะคะ เมื่อคิดจะทำประกันรถยนต์กับที่ไหนสักแห่ง คุณอาจคิดว่าที่ไหนให้ราคาถูกที่สุดก็เลือกบริษัทนั้น จริง ๆ แล้ว แค่เทียบราคา ประกันรถยนต์ ก็พอเหรอ? เราจะบอกให้ว่าไม่พอค่ะ เพราะประกันรถยนต์ที่ได้ อาจไม่เหมาะกับคุณจริง ๆ ก็ได้ เราจึงได้รวบรวม 6 ข้อที่เหมือนเป็นเช็คลิสต์ให้คุณนำมาพิจารณาเพื่อหาประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะกับคุณที่สุด มาตามกันต่อค่ะว่าต้องดูอะไรบ้าง?

เทียบราคา ประกันรถยนต์

เช็คประกันรถยนต์ตัวเอง – เทียบราคา ประกันรถยนต์ กับ 6 ข้อเช็คลิสต์

อย่างที่เกริ่นไปแล้วนะคะว่าแค่เทียบราคาอย่างเดียว ประกันรถยนต์นั้นอาจไม่ตอบโจทย์ หรือไม่เหมาะกับคุณอย่างแท้จริง มันยังมีสิ่งอื่นที่ต้องมาพิจารณาร่วมด้วยดังนี้ค่ะ

  1. ประสบการณ์ที่เคยใช้ หากเป็นการต่อประกันมาหลายปีแล้ว และคุณเองก็เปลี่ยนมาหลายที่ คงพอบอกตัวเองได้ว่า ตั้งแต่ใช้มาประกันบริษัทไหนที่คุณชอบที่สุด และชอบเพราะอะไร
  2. มีอู่หรือศูนย์ซ่อมใกล้คุณ การทำประกันรถยนต์ ก็เพื่อเป็นการผ่อนหนักเป็นเบา ไม่มีใครอยากใช้บริการ แต่อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ เมื่อต้องนำรถเข้าซ่อม ถ้าคุณอยากซ่อมศูนย์มีศูนย์ใกล้บ้าน หรือใกล้ที่ทำงานหรือไม่ หากซ่อมอู่ อู่เหล่านั้นใกล้คุณหรือเปล่า เพื่อความสะดวกในการไปดูรถ หรือรับรถ และเทคนิคเล็ก ๆ หากเป็นอู่ ลองไปถามเขาเลยค่ะ ว่าประกันบริษัทไหนที่อู่ชอบ เพราะอาจมีเรื่องค่าใช้จ่ายที่ทางอู่เบิกง่ายหรือยาก ทำให้มีผลต่อการดองงานซ่อมด้วย ดังนั้นหากบริษัทประกันใดที่ทางอู่แนะนำ ก็ควรนำมาพิจารณาร่วมด้วยค่ะ
  3. เทียบราคา เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดในการนำมาพิจารณา เมื่อเทียบแล้ว ราคาและรายละเอียดในประกันของบริษัทไหนที่คุณรับได้ มีการผ่อนชำระด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสด ผ่อนแบบ 0% ได้หรือเปล่า กี่งวด หรือหากต่อกับบริษัทเดิม มีราคาที่ลดลงกรณีคุณไม่เคยเคลมหรือไม่ เพื่อเป็นการวางแผนทางการเงินของคุณด้วยเทียบราคา ประกันรถยนต์
  4. เพื่อนแนะนำ ลองไปคุยกับเพื่อน ๆ ที่ใช้รถว่ามีประสบการณ์ที่ดีและไม่ดีกับบริษัทประกันไหนบ้าง ก็สามารถนำมาประกอบการพิจารณาได้ค่ะ
  5. บริการหลังการขาย เช่น การติดต่อกรณีเหตุฉุกเฉิน หรือการแจ้งเคลม มาเร็วหรือเปล่า หรือไฮเทคมากขึ้น บางบริษัทก็ใช้แอปในการแจ้งเหตุหรือเคลมกันเองได้ เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็ลองค้นหาเพิ่มทาง pantip หรือในอินเตอร์เน็ต
  6. ประเภทประกันรถยนต์ นอกจากจะดูรายละเอียดข้างต้นแล้ว สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ คุณควรเลือกประกันประเภทไหน จะเป็นประกันชั้น 1 หรือประกัน 2+ ลองดูรายละเอียดได้ ที่นี่ ค่ะ

 

อาจจะดูว่าต้องหาข้อมูลมากมายหลายอย่าง แต่เพื่อประโยชน์ของคุณเอง ไม่ควรพลาดนะคะ เพราะแค่เทียบราคา ประกันรถยนต์ อย่างเดียว ไม่พอแน่นอน อย่างไรก็ขอให้คุณได้ประกันรถยนต์ที่เหมาะกับตัวคุณกันมากที่สุดกันค่ะ