เคลมบ่อยติด แบล็คลิส ประกันรถยนต์ ด้วยเหรอ?
คุณ ๆ ที่ตัดสินใจทำประกันรถยนต์ ก็เพื่อลดภาระและให้เกิดความคุ้มครองในรถของคุณยามที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หากเงินในกระเป๋าพอจะไหว คนส่วนใหญ่ก็มักเลือกที่จะทำประกันชั้น 1 กันทั้งนั้น เพราะสามารถเคลมได้สารพัด ทั้งมีและไม่มีคู่กรณี แต่ทว่าคุณทราบหรือไม่หากเคลมมากไปก็อาจติดแบล็คลิส ประกันรถยนต์ได้เหมือนกันนะคะ
ต้องเกริ่นก่อนว่าประเภทประกันที่จะทำให้คุณถูกติดแบล็คลิส ประกันรถยนต์ ได้ง่าย ๆ ก็คือประกันชั้น 1 เพราะสามารถเคลมได้เกือบทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นรถชนรถ หรือแม้แต่คุณไปเฉี่ยวชนกระถางต้นไม้ เบียดเสารั้ว และสิ่งที่เคลมโดยไม่มีคู่กรณีนี่แหละที่ทางบริษัทประกันเรียกว่าเคลมแห้ง ซึ่งบางครั้งคุณไปถูกรถเฉี่ยวชนมาแต่หาคู่กรณีไม่ได้ เพราะเขาหนีไปแล้ว คุณก็อาจทำเป็นแจ้งเคลมว่าชนเสา ซึ่งโดยปกติเจ้าหน้าที่ประกันรถยนต์ที่มาตรวจสอบ เห็นรอยแผลของรถเขาก็ทราบแล้วที่คุณแจ้งมาจริงหรือเท็จ แต่ในบางครั้งถ้าไม่หนักหนาอะไรนักเขาก็ปล่อยผ่านและออกใบเคลมให้คุณ เพื่อนำไปซ่อมกับอู่ให้เรียบร้อย
แล้วเคลมขนาดไหนถึงติดแบล็คลิส ประกันรถยนต์ กันล่ะ ทางบริษัทประกันได้กำหนดไว้ว่าคุณต้องไม่มีการเคลมเกิน 200 เท่าของเบี้ยประกันภัยต่อปี อาทิเช่น คุณจ่ายค่าเบี้ยปีละ 15,000 บาท คุณจะเคลมโน่นนี่นั่นทั้งปีได้ไม่เกิน 3,000,000 บาทต่อปี ซึ่งกว่าจะเคลมได้เยอะขนาดนั้นคุณคงต้องผ่านด่านจากบริษัทประกันเยอะหน่อยนะคะ เพราะเขาก็ใช่ว่าจะออกใบเคลมให้คุณได้ง่าย ๆ และปีต่อไปก็เตรียมหาบริษัทประกันใหม่ได้เลยค่ะ
แต่หากคุณชอบใจในบริการหรืออะไรก็แล้วแต่ของบริษัทประกันจนอยากจะทำต่อแม้จะติดแบล็คลิสล่ะ ก็สามารถทำต่อได้เหมือนกันค่ะ แต่บริษัทประกันก็จะคิดค่าเบี้ยประกันภัยที่แพงสุดโต่งเหมือนกัน อย่าเพิ่งไปว่าเขาเลยค่ะ เขาก็ทำธุรกิจ เมื่อคิดกลับด้านหากเป็นเราทำอะไรก็แล้วแต่ และเกิดขาดทุน คุณจะทำต่อมั๊ย บริษัทประกันเองก็เช่นกันค่ะ หากทำแล้วขาดทุนใครจะอยากทำ ใจเขาใจเรานะคะ
การติดแบล็คลิส ประกันรถยนต์ ก็เหมือนการที่บริษัทประกันรถยนต์ไม่ยินยอมที่จะต่อประกันรถยนต์ในปีต่อ ๆ ไปให้กับคุณ หรือหากหนักสุด ๆ ก็คือบริษัทประกันขอยกเลิกทันทีโดยไม่รอครบปี ซึ่งประเภทนี้ก็ใช่แต่ว่าสำนักงาน คปภ. จะคุ้มครองแต่ผู้เอาประกันเท่านั้น แต่เขาก็ต้องคุ้มครองบริษัทประกันภัยไม่ให้โดนเอารัดเอาเปรียบมากเกินไปเช่นกัน
ทางที่ดีที่สุด คุณ ๆ ก็ควรขับรถอย่างมีสติ ระมัดระวัง ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุและการเคลมบ่อย ๆ ลงได้ และหากคุณมีประวัติดี ในปีต่อ ๆ ไปก็ยังได้รับส่วนลดค่าเบี้ย หรือหากต้องการต่อกับบริษัทประกันอื่น ก็สามารถนำประวัติดีนี้ไปขอลดค่าเบี้ยจากบริษัทอื่นที่เขามีโปรโมชั่นลดเบี้ยหากไม่มีเคลมได้เช่นกันค่ะ