5 เหตุผลที่คุณควรทำประกันรถยนต์ ไม่ค่อยได้ขับ

“รถ” ในปัจจุบันนี้แทบจะนับได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5-6 ของทุก ๆ บ้านกันเลยทีเดียวค่ะ บางคนก็ใช้งานทุกวัน เพราะต้องใช้ไปทำงานนั่นเอง แต่บางคนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้งาน เพราะวันทำงานอาจไปรถสาธารณะ หรือเป็นแม่บ้านที่ใช้ไปแค่ซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น ซึ่งหากการใช้งานเป็นไปทุกวัน คุณก็คงตัดสินใจทำประกันรถยนต์ได้ไม่ยาก แต่หากไม่ใช่ คุณเองก็อาจมีข้อขัดแย้งในใจว่า รถก็ไม่ค่อยได้ใช้ จะทำประกันรถยนต์ไปทำไม บทความนี้จึงมานำเสนอ ประกันรถยนต์ ไม่ค่อยได้ขับ ให้คุณไว้เป็นทางเลือกค่ะ

ประกันรถยนต์ ไม่ค่อยได้ขับ

ก่อนอื่นเรามาดู 5 เหตุผลที่คุณควรทำประกันรถยนต์ ไม่ค่อยได้ขับ กันก่อนค่ะว่าเพราะอะไร?

  1. หากเกิดอุบัติเหตุ อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ การขับรถน้อยไม่ได้เป็นการการันตีว่าคุณจะไม่เกิดอุบัติเหตุเลย ดังนั้นหากมีอุบัติเหตุที่ทำให้รถยนต์คุณเสียหาย เท่ากับว่าผู้ที่ต้องรับผิดชอบค่าซ่อมแซมก็คือคุณเองแบบเต็ม ๆ
  2. ชดเชยคู่กรณี ต่อเนื่องมาจากข้อที่ 1 เพราะเมื่อของเราเสียหาย คู่กรณีของเราก็ต้องมีความเสียหายเช่นกัน เท่ากับคุณต้องควักกระเป๋าออกไปเพื่อซ่อมแซมรถของเขาด้วย
  3. ไม่มีคนช่วยเจรจา อย่าลืมว่าเหตุการณ์แบบนี้ ถือเป็นเรื่องระทึกขวัญสำหรับคุณ ๆ อยู่ไม่ใช่น้อย เพราะเราไม่ได้เจอะเจอทุกวัน หากมีประกันรถยนต์ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการมาช่วยพูดคุย เจรจาต่อรองแทนคุณ โดยที่คุณนั่งชิล ๆ สวย ๆ หล่อ ๆ รอฟังเจ้าหน้าที่พูดคุย
  4. จัดการคดีอาญาด้วยตนเอง หากเกิดเหตุไม่คาดฝันที่คุณอาจเกิดคดีทางอาญาขึ้นจากอุบัติเหตุ อย่าลืมความยุ่งยากจะมีมาก ทั้งเรื่องประกันตัว ขึ้นโรงขึ้นศาล หากไม่มีประกันรถยนต์เท่ากับคุณต้องจัดการด้วยตนเองทั้งหมด
  5. รายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่รวมถึงเรื่องสิทธิพิเศษอื่นที่คุณจะได้รับ เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน, รถใช้ระหว่างซ่อมหรือค่าใช้จ่ายทดแทน และอีกมากมาย

 

เมื่อถึงตรงนี้หากคุณคิดอยากจะทำ ประกันรถยนต์ ไม่ค่อยได้ขับ จะมีประกันภัยรถยนต์ที่น่าสนใจแบบไหนได้บ้าง
  1. ประกันตามไมล์ ขับน้อยก็มีความเสี่ยงน้อย เบี้ยประกันจึงถูกกว่าคนที่ขับมากกว่า นอกจากนี้ลูกค้าสามารถรับเบี้ยประกันคืนสูงสุดได้ถึง 15%  เมื่อขับได้ตามระยะทางที่ลดลงตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งหากคุณมีขการใช้รถยนต์ไม่เกิน 70 กิโลเมตรต่อวัน หรือเฉลี่ย 25,550 กิโลเมตรต่อปีก็สามารถทำประกันแบบนี้ และขอเงินคืนได้อีกด้วยนะคะ
  2. ประกันเปิดปิด เป็นบริการประกันภัยแบบเติมเงิน มีข้อดีคือขับรถเมื่อไหร่ก็เปิดความคุ้มครอง จอดรถก็ปิดความคุ้มครองได้ แถมยังเลือกได้ว่าต้องการประกันภัยชั้นไหน เช่น ประกันภัยชั้น 1, 2+ หรือ 3+ เป็นต้น เติมเงินครั้งหนึ่งก็สามารถใช้ได้ยาว ๆ ตามวงเงินที่ยังมีอยู่ ถือว่าประหยัดกว่าการทำประกันรถยนต์รายปีถึง 40 % เลยทีเดียว

 

ตัดสินใจเลือกทำ ประกันรถยนต์ ไม่ค่อยได้ขับ แบบไหนก็พิจารณาตามความเหมาะสมกันดูนะคะ