4 ความเชื่อเกี่ยวกับ รถ รี ไฟแนนซ์ ที่อาจเข้าใจผิดมาตลอด
ผ่านสถานการณ์โควิด 19 แบบหนัก ๆ กันมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ เพราะรอบข้างประเทศไทยรวมไปถึงทั่วโลกยังมีการระบาดที่รุนแรงอยู่ เพราะเศรษฐกิจเดิมในประเทศก็มีแนวโน้มขาลงอยู่แล้ว เมื่อมาเจอโรคระบาดแบบโควิด 19 เข้าไปอีก นี่เองที่อาจจะทำให้ภาวะทางการเงินของหลาย ๆ คนฝืดเคือง ดังนั้นนอกจากการที่เรายังต้องเตรียมพร้อมรับมือโดยไม่ประมาทแล้ว การหาเงินทุนมาเพื่อหมุนเวียนใช้จ่ายเพื่อให้ตนผ่านพ้นวิกฤติเหล่านี้ไปให้ได้จึงเป็นเรื่องจำเป็น และสิ่งหนึ่งที่จะให้คุณนำมาเปลี่ยนเป็นเงินได้อย่างรวดเร็วก็คือ รถยนต์ ซึ่งก็มีวิธีการคือนำ รถ รี ไฟแนนซ์ แต่อาจมีบางเรื่องที่คุณอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน ลองมาดูรายละเอียดกันค่ะ
4 ความเชื่อเกี่ยวกับ รถ รี ไฟแนนซ์
บางครั้งเราเองอาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปในหลาย ๆ เรื่อง รวมไปถึงการนำ รถ รี ไฟแนนซ์ มีเรื่องไหนบ้างมาติดตามกันค่ะ
- รถใหม่ต้องได้เงินเยอะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าคุณจะเพิ่งถอยรถคันนี้ออกจากโชว์รูมรถ แต่เมื่อจะทำเรื่องขอรีไฟแนนซ์รถ ทางบริษัทผู้ให้สินเชื่อจะคิดเป็นรถมือสองทันที และราคาจะตกลงอย่างมากมายเลยทีเดียว ทำให้ไม่ได้วงเงินในยอดที่คุณหวังไว้
- รถปีเดียวกันต้องได้ราคาเท่ากัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากคุณทำเรื่องขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ อาจจะมีราคากลางซึ่งเป็นราคาตลาดให้คุณพอประมาณการวงเงินได้คร่าว ๆ แต่เมื่อจะทำเรื่องจริง ๆ มีรายละเอียดมากมายเฉพาะตัวทีเดียว เพราะวงเงินจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อรถ, รุ่น, ปีจดทะเบียน, สภาพรถ และอื่น ๆ ประกอบกัน ดังนั้นรถที่แม้แต่จดทะเบียนปีเดียวกัน ยี่ห้อและรุ่นเหมือนกัน แต่สภาพเก่า-ใหม่ไม่เท่ากัน ตลอดจนปัจจัยอื่น ๆ ก็อาจจะได้ราคาไม่เท่ากันก็ได้
- รถในท้องตลาดย่อมได้ราคาเท่ากัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อคุณซื้อรถแน่นอนว่าเราต้องเลือกรถในรูปลักษณ์ที่สวยถูกใจเรา ซึ่งในบางครั้งอาจเป็นยี่ห้อ หรือรุ่นที่ไม่ใช่เป็นที่นิยมในการซื้อขาย ดังนั้นเมื่อนำไปขอ รถ รี ไฟแนนซ์ ก็ย่อมได้ราคาที่น้อยกว่ารถตลาดหรือรถที่เขานิยมซื้อขายกัน
- อายุรถยิ่งมากควรจะราคาดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว รถยนต์ไม่เหมือนกับบ้านหรือที่ดินนะคะ ที่ยิ่งนานวันมูลค่ายิ่งเพิ่มขึ้น ถ้าถนนตัดผ่านราคาก็จะพุ่งทยาน สำหรับรถยนต์แล้ว ยิ่งอายุรถยิ่งมาก ค่าเสื่อมราคาก็จะสูง ทำให้เมื่อขอสินเชื่อก็จะได้ราคาที่ต่ำกว่ารถใหม่ ๆ
เมื่อทราบดังนี้แล้ว เราก็จะได้เตรียมความพร้อมเวลาที่ไปขอสินเชื่อ โดยไม่คาดหวังสูงจนเกินไป อีกทั้งใส่ใจดูแลรถยนต์ตั้งแต่วันนี้ เผื่อหากในอนาคตเราอาจต้องนำรถยนต์ไปทำเรื่องขอสินเชื่อก็เป็นได้ค่ะ
