ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง โดนใจคุณรึเปล๊า!
เมื่อมีรถนั่นก็หมายถึงภาระที่หนักอึ้งเหมือนน้ำหนักของรถเลยล่ะค่ะ เพราะไหนจะมีค่าผ่อนงวดรถในแต่ละเดือน ค่าตกแต่งรถ เช่น ล้อแมกซ์, ชุดแต่งรอบคัน, เครื่องเสียง เป็นต้น หรือจะเป็นค่าน้ำมันรถ ค่าบำรุงรักษาตามอายุการใช้งานของรถ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ประกันรถยนต์ เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด แต่ทว่าหลายท่านมักหมดเงินไปกับสิ่งต่าง ๆ ข้างต้นจนแทบไม่เหลือเงินทำประกันรถแล้ว ดังนั้นการจะทำประกันชั้น 1 จึงทำให้คุณหนักใจไม่ใช่น้อย จึงทำให้คุณอาจกำลังสนใจในประกันที่ลดหลั่นความคุ้มครองลงมาเล็กน้อยนั่นคือประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส และเจ้าประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง มาดูกันเลย
ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เมื่อดูความคุ้มครองแล้ว ประกันรถยนต์ 2+ ให้ความคุ้มครองได้ใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 มาก ๆ แต่ทว่าวงเงินประกันจะน้อยกว่า ทั้งนี้เพราะเบี้ยประกันของประกันรถยนต์ 2+ ถูกกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 กว่าครึ่งเลยทีเดียว โดยความคุ้มครองมีให้ตั้งแต่ชดเชยค่ารักษาพยาบาลในกรณีบาดเจ็บ หรือค่าสินไหมทดแทนในกรณีเสียชีวิตทั้งคุณ, ผู้โดยสาร และคู่กรณี อีกทั้งยังรับผิดชอบค่าซ่อมรถทั้งด้านคุณและคู่กรณีอีกด้วย นอกจากนี้ยังรวมในกรณีพิเศษต่าง ๆ เช่น รถไฟไหม้, สูญหาย, น้ำท่วม เป็นต้น
แล้วประกันรถยนต์ 2+ เหมาะกับใครบ้าง ก็คงต้องบอกว่าต้องเป็นผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ขับขี่มาพอสมควร อีกทั้งรถยนต์ของคุณอาจไม่ใช้รถยนต์ใหม่นัก ประมาณ 2 ปีขึ้นไปก็กำลังเหมาะสมดีทีเดียวค่ะ
เมื่อใจกำลังเอนเอียงมาทางประกันรถยนต์ 2+ แต่ก็ยังติดเรื่องเงินทอง ปัจจุบันนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว เพราะหลายบริษัทก็มีบริการผ่อนเงินสดโดยไม่มีดอกเบี้ยกับทางบริษัท หรือจะผ่อนผ่านบัตรเครดิตซึ่งได้สูงสุดถึง 10 งวด โดยไม่เสียดอกเบี้ยเช่นกัน
เมื่อพูดถึงข้อดีกันไปแล้วว่า ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ก็ต้องมาพูดข้อยกเว้นกันบ้าง นั่นคือ ประกันรถยนต์ 2+ จะคุ้มครองคุณในกรณีที่เกิดอุบัติกับรถด้วยกัน หรือจะพูดให้ถูกก็คือยานพาหนะทางบก อาทิ รถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ รถซาเล้งติดเครื่องยนต์ รถอีแต๋น เป็นต้น นั่นเท่ากับว่าคุณจะไม่สามารถเคลมประกันได้ในกรณีที่คุณไปเฉี่ยวชนกับรถคันอื่นแล้วคู่กรณีหนีหายไป หรือชนรั้ว ชนเสา เป็นต้น
ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ก็คงพอทราบรายละเอียดกันไปแล้ว ซึ่งจากบทความคงพอทำให้คุณเข้าใจมากยิ่งขึ้น แต่หากต้องการรายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้นคุณสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้กับบริษัทประกันรถยนต์หรือโบรคเกอร์ที่คุณสนใจ แต่เชื่อแน่ว่าบทความของเราคงมีประโยชน์ที่จะให้คุณใช้เป็นแนวทางได้ไม่มากก็น้อยนะคะ