ความแตกต่าง ประกันภัยรถยนต์ รู้ไว้จะได้เลือกตัวเด็ด!

การทำประกันรถยนต์ถือได้ว่าเป็นความรับผิดชอบอย่างหนึ่งของผู้มีรถ เพราะเนื่องด้วยเป็นการบังคับทางกฏหมายประการหนึ่ง และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นจากการขับรถของเรา แต่คุณทราบหรือไม่ว่าประกันภัยรถยนต์ยังมีแบ่งออกไปมากมายหลายประเภท มาดูกันค่ะว่าความแตกต่าง ประกันภัยรถยนต์ มีอะไรกันบ้าง

ความแตกต่าง ประกันภัยรถยนต์

ความแตกต่าง ประกันภัยรถยนต์ มีด้วยกันหลากหลายแบบ ซึ่งหากทราบไว้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเอง ดังนี้ค่ะ

  1. ประกันภัยรถยนต์ ภาคบังคับ ที่มักเรียกว่า ประกัน พ.ร.บ. เป็นประกันที่กฏหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องทำ โดยประกันภัยนี้จะรับผิดชอบในเรื่องค่ารักษาพยาบาล การบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต โดยเป็นการเยียวยาในเบื้องต้น หากคุณละเลยไม่ทำก็เหมือนทำผิดกฏหมาย มีสิทธิ์ถูกจับปรับได้ค่ะ และไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ด้วย
  1. ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ ซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับคุณ กฏหมายไม่ได้บังคับ เพียงแต่ประกันภัยตัวนี้จะมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องซ่อมแซมรถ ค่ารักษาพยาบาล และอื่น ๆ แทนคุณในยามที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะแบ่งเบามากน้อยขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับประเภทของแผนประกันภัยที่คุณทำนั่นเองค่ะ เพราะวงเงินความคุ้มครองจะแตกต่างกันไป เช่น แผนประกันภัยชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งความเสียหายต่อตัวรถยนต์ทั้งคุณและคู่กรณี ค่ารักษาพยาบาลทั้งของคุณ ผู้โดยสารในรถ รวมไปถึงฝั่งของคู่กรณีด้วย ค่าประกันตัวหากอุบัติเหตุนั้นเป็นคดีอาญาขึ้นมา และหากไม่มีคู่กรณีเช่น คุณขับไปครูดกำแพง เบียดฟุตบาทก็สามารถเคลมได้เช่นกัน รวมไปถึงรถสูญหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติอีกด้วย

 

แต่หากเป็นแผนประกันชั้น 2+ บริษัทประกันจะซ่อมแซมรถให้คุณก็ต่อเมื่อเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และบางแผนไม่คุ้มครองภัยธรรมชาติ และหากเป็นแผนประกันภัยชั้น 3+ บริษัทจะไม่คุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ

 

ความคุ้มครองเหล่านี้ก็ไม่ได้ตายตัวเสมอไปนะคะ เพราะบางครั้งบริษัทเห็นว่าลูกค้าอาจไม่ต้องการจ่ายมากเกินไป หรือต้องการเพิ่มความคุ้มครองแค่บางอย่าง ก็จะนำเสนอขายการประกันภัยเฉพาะอย่าง เช่น ทำประกันภัย 3+ แล้วซื้อความคุ้มครองในเรื่องน้ำท่วมเพิ่มเติมได้ เป็นต้น

 

ซึ่งความแตกต่าง ประกันภัยรถยนต์ในแต่ละประเภทที่ละเอียดมากไปกว่านี้ คุณสามารถหาอ่านได้จากบทความของเรา ซึ่งการทราบในรายละเอียดย่อมทำให้คุณมีวัตถุดิบในมือ เพื่อที่จะค้นหาความต้องการของตัวคุณเองว่าคุณควรเลือกทำประกันภาคสมัครใจหรือไม่ ถ้าจะทำควรทำแผนประกันภัยไหน รวมไปถึงควรสำรวจเงินในกระเป๋าหรือความสามารถในการชำระเงินของคุณด้วยนะคะ