เคลมรถต้องใช้ เอกสาร ประกันรถยนต์ อะไรบ้าง?

หากเป็นไปได้ ทุก ๆ คนย่อมเลือกที่จะไม่อยากเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะนอกจากจะทำให้คุณเสียเวลา, ทรัพย์สินเสียหาย และหากร้ายแรงอันมีคนบาดเจ็บ ไปจนถึงเสียชีวิต เรียกได้ว่าจะเป็นมหากาพย์ในชีวิตและยังเป็นสิ่งที่ติดตาติดใจไปตลอดอีกด้วย แต่ทว่าหากมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องมีสติ หาทางตั้งรับ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละอย่าง แล้วมันจะค่อย ๆ คลี่คลายเอง บทความนี้เราจึงมาช่วยให้คุณได้สบายใจมากขึ้น หากต้องตระเตรียมเอกสาร ประกันรถยนต์ ที่จะต้องใช้ในการเคลมว่ามีเอกสารอะไรกันบ้าง

เอกสาร ประกันรถยนต์

 

เอกสาร ประกันรถยนต์ ที่ต้องใช้สำหรับการเคลมประกันภัยรถยนต์มีดังต่อไปนี้ค่ะ

  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาควรเซ็นรับรองสำเนาให้ถูกต้อง เตรียมยื่นพร้อมบัตรประชาชนตัวจริงของผู้มีชื่อเป็นผู้เอาประกันภัย
  2. สำเนาใบขับขี่ สำเนาควรเซ็นรับรองสำเนาให้ถูกต้อง เตรียมยื่นพร้อมใบขับขี่ตัวจริงของผู้มีชื่อเป็นผู้เอาประกันภัย
  3. สำเนาเล่มทะเบียนรถ สำเนาควรเซ็นรับรองสำเนาให้ถูกต้อง เตรียมยื่นพร้อมเล่มทะเบียนรถตัวจริงของผู้มีชื่อเป็นผู้เอาประกันภัย (หากเล่มจริงยังอยู่ที่บริษัทไฟแนนซ์ก็สามารถยื่นเฉพาะสำเนาได้ค่ะ)
  4. สำเนากรมธรรม์ประกันภัย โดยถ่ายเอกสารหน้าที่มีชื่อและรายละเอียดของคุณนั่นเอง พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
  5. ใบเคลมที่บริษัทประกันภัยออกให้ โดยคุณควรถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นสำเนาของตนเอง 1 ชุดด้วยนะคะ
เมื่อคุณเตรียมเอกสารดังกล่าวข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนติดต่อการซ่อมได้เลยค่ะ ดังนี้
  1. เตรียมเอกสาร จัดเตรียมเอกสาร ประกันรถยนต์ 5 อย่างข้างต้นแล้วนำไปติดต่อที่ศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมในเครือได้เลย
  2. นำรถเข้าซ่อม หากมีการนัดหมายวันเวลากับทางอู่หรือศูนย์เรียบร้อย ก็สามารถนำรถเข้ารับการซ่อมได้ตามที่นัดกันไว้
  3. รับใบรับรถ ซึ่งมักเป็นการออกใบรับรถจากการซ่อมผ่านศูนย์บริการ แต่ในส่วนของอู่ซ่อมในเครือ เขามักไม่มีเอกสารออกให้ แต่จะมีในส่วนของเอกสารภายในของทางอู่เอง โดยคุณสามารถพูดคุยเพื่อนัดวันรับรถกับทางอู่หรือศูนย์
  4. ตรวจรับรถ หากถึงวันกำหนดนัดรับ ก่อนการเซ็นรับรถ คุณก็ตรวจสภาพรถในบริเวณที่มีการแจ้งไว้ในใบเคลมว่าได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยหรือไม่ ตลอดจนสอบถามระยะเวลารับประกันงานซ่อมให้เรียบร้อยนะคะ

 

ส่วนในเรื่องที่จะไม่รับความสะดวกสบายในขณะนำรถเข้าซ่อม ก็ต้องดูที่บริษัทประกันภัยนั้น ๆ ว่าเขามีมาตรการอะไรที่จะให้บริการลูกค้าไว้หรือไม่ เช่น มีรถให้ใช้ระหว่างซ่อม หรือเป็นคูปองเงินสดสำหรับขึ้นรถแท็กซี่ หรือมอบเป็นเงินสดเพื่อเป็นค่าเดินทาง โดยคุณสามารถสอบถามได้จากบริษัทประกันภัยที่คุณได้ทำประกันภัยเอาไว้ค่ะ สิ่งเหล่านี้คงพอเป็นแนวทางให้คุณได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

จากรายละเอียดข้างต้น จะเห็นได้ว่าขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอะไรนัก และเอกสาร ประกันรถยนต์ ก็ไม่ได้ใช้มากมายอะไร รับรองได้ว่าไม่เกินความสามารถของคุณ ๆ กันแน่นอนค่ะ